วันพฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

เมืองกาญจน์ รสกลมกล่อมของความปรับเปลี่ยน

มิได้เป็นเพียงประตูสู่ชายแดนตะวันตก มีแม่น้ำสายโบราณอิงไหลหล่อเลี้ยงมาแสนนาน แต่กาญจนบุรีเต็มไปด้วยความเป็นตัวของตัวเองอันชัดเจน

          ผ่านร้อนหนาว เรียนรับปรับเปลี่ยน ในวันที่หลายคนเดินไปข้างหน้าอย่างไม่แลกกับกลางเมืองกาญจน์ยังเหลือที่ทาง ให้บางคนยืนอยู่กับบ้าน แต่ขานรับการเปลี่ยนแปลงอย่างเข้าใจ
          เช่นผู้คนเหล่านี้

รื่นรมย์ริมน้ำ
          พื้นที่เล็ก ๆ ริมลำน้ำแควใหญ่ยามเย็นเป็นไปอย่างสุนทรีย์ ไฟตะเกียงหวามอารมณ์ ดวงตาเปิดกว้างมองฟ้าบลูยามค่อย ๆ กลืนความโรแมนติกของแม่น้ำไว้กับค่ำคืน
          แต่หัวใจของปาจารุภัชร์ เจริญทัศนศิริ และครอบครัว กลับพองโต By de River ของคนบ้านนี้ผสมผสานอาหารพื้นบ้านภาคกลางไปกับบรรยากาศอันแสนรื่นรมย์ของคน รักการนั่งมองแม่น้ำ

          ขนมเบื้องไข่สูตรเฉพาะของครอบครัวเสิร์ฟมาบนโต๊ะไม้ให้เป็นของกินเล่น เนื้อไข่ห่อเหลืองนวลหนานุ่ม แต่งพริกชี้ฟ้า ผักชี เป็นหน้าตาม ไส้หอมกลมกล่อมระหว่างไชโป๊ว ถั่วงอก ผัดเข้ากัน ซุกซ่อนความอร่อยไว้ข้างใน เหยาะอาจาดอมเปรี้ยวหวานไปในทุกคำเคี้ยว เติมเต็มรสชาติ

          ความสมบูรณ์ของแม่น้ำและพืชพรรณส่งมอบให้ที่นี่มากไปด้วยอาหาร หลด (ไหล) บัวผัดกุ้ง กรอบหวาน ผัดกับกุ้งแชบ๊วยยิ่งเพิ่มความเอร็ดอร่อยแสนลงตัว คนเฒ่าคนแก่นั่งนึกถึงอดีตในหนองน้ำยามตักหลดบัวแต่ละชิ้น

          เมืองแม่น้ำขาดปลาสด ๆ ไม่ได้ ปลากดผัดฉ่าร้อนแรงมาด้วยเครื่องแกงและสารพัดสมุนไพร กระชาย พริกสด เข้ากันดีกับเนื้อปลากดสดหวาน ไร้ซึ่งความคาวด้วยความ “เป็น” ของคนข้างในครัว
          บ้านป่าอย่างเมืองกาญจน์ไม่ขาดความเผ็ดร้อน แม้มาอยู่ในร้านเปี่ยมบรรยากาศ แต่แกงป่าไก่ของที่นี่คงเอกลักษณ์ไว้ชัดเจน เข้ม ถึงใจในเรื่องรสชาติ ชิ้นไก่บ้านเพลินเคี้ยว น้ำแกง จัดจ้าน ใส่มะเขือเหลืองนำหน้ามะเขือชนิดอื่น อันถือเป็นมะเขือเฉพาะถิ่นของกาญจนบุรี

          แม้จะเป็นร้านนอกบ้าน แต่ By de River กลับอยากเห็นบรรยากาศพื้นบ้านแบบกับข้าวครบเครื่อง ครอบครัวพร้อมหน้า ร่วมมื้อค่ำไปอย่างกลมเกลียว

          เช่นนั้นเอง ริมน้ำแควใหญ่แห่งนี้จึงไม่ได้มีแค่วิวสวย อาหารพื้นบ้าน
          แต่มากไปด้วยแรงบันดาลใจให้คนในครอบครัวกลับมาพร้อมหน้าในวงข้าว

By de Riverเลขที่ ๓๓๗/๑ ถนนแม่น้ำแคว ตำบลท่ามะขาม อำเภอเมืองฯ จังหวัดกาญจนบุรี เปิดทุกวัน เวลา ๑๗.๐๐-๒๔.๐๐ นาฬิกา โทรศัพท์ ๐๘ ๑๘๒๓ ๙๓๔๒
ผสมผสานบ้านทุ่ง
          ริมทุ่งของอำเภอพนมทวนบ่มเพาะคนมาหลากรุ่น บางคนลืมตาและหลับลงกลางไร่นา และไม่น้อยที่รอนแรมจากบ้านไปเติมเรื่องราวให้หัวใจกลับมาพร้อมเรื่องเล่า เฉพาะตน

          อย่างที่วิภาและพัทธิยา ลำไย สองพี่น้องเพิ่งนำอาหารฝรั่งกลับมาเป็นขวัญใจที่นี่ คนน้องอย่างพัทธิยาเธอว่า “อยากให้คนที่นี่มีอาหารฝรั่งกินบ้าง ไม่ต้องเข้าเมืองไปพึ่งพาแต่ในห้างค่ะ” ประโยคนั้นเรียบง่าย ไม่มีทีท่าค่อนขอด แต่มากด้วยความซื่อใสแบบผู้ใหญ่เอ็นดูเด็ก

          สเต็กบ้านนอกเกิดขึ้นง่าย ๆ ด้วยเหตุผลนี้ แต่ที่ยากคือสูตรเฉพาะ ซึ่งคิดค้นเรียนรู้ และปรับใช้จนเป็นเอกลักษณ์ของสเต็กต่าง ๆ และอาหารพิเศษเมนู

          สเต็กเนื้อและสเต็กหมูพกพาหน้าตาง่าย ๆ มาประดับจาน แต่ซ่อนความอร่อยไว้ในชิ้นสันในเนื้อน่องลายสำหรับคอเนื้อหอมนุ่ม เลือกระดับความสุก (และสุข) ตามใจ กินกับผักต้มต่าง ๆ บร็อกโคลี แครอต ข้าวโพด ขนมปังปิ้ง ส่วนคอหมูใครชอบแบบติดมันเลือกสันคอ อิ่มอารมณ์มันหอมตอนสุก ชอบเนื้อนุ่ม ๆ ต้องออร์เดอร์สันใน ทั้งหมดผสานรวมด้วยน้ำเกรวีสูตรพิเศษ
          ใช่จะมีแต่สเต็ก ของกินคู่เคียงสองพี่น้องก็ปรุงมันออกมาอย่างน่าลิ้มลอง สลัดกุ้งกรอบ สด ๆ กับผักนานาอันกรอบหวาน กุ้งแชบ๊วยเนื้อดีเมื่อชุบเกล็ดขนมปังหลังขึ้นจากกระทะก็กลายเป็นพระเอก เจือน้ำสลัดโฮมเมดแบบพนมทวนเพิ่มความครบรส

          เพลิน ๆ กับไก่ทอดใบเตย ส่วนปีกบนทอดอย่างคนเข้าใจในไฟและน้ำมัน กรอบนอกนุ่มใน จิ้มน้ำเกรวีที่สองพี่น้องตั้งใจหนักหนา เรียกว่าหยุดกันไม่อยู่จนชิ้นไก่เต็มจานโตหายไปในพริบตา

          จะว่าไป นานาเมนูฝรั่งที่สเต็กบ้านนอกอาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับหลายคนที่ดั้นด้นเดินทางไปทั่วทิศ

          แต่หากเทียบกับชีวิตกลางทุ่งที่หายใจอยู่เฉพาะตามฤดูกาล ใครสักคนกลับมาเติมเต็มความอร่อย มอบหัวใจให้เพื่อนบ้านไว้ในจานอาหาร

          พวกเขาอาจไม่จำเป็นต้องก้าวเดินออกไปตามหาฝันนอกบ้านให้เหนื่อยอ่อนอีกต่อไป

สเต็กบ้านนอก
เลขที่ ๑๗/๓ ซอยเทศบาล ๗ ถนนสายกาญจนบุรี-สุพรรณบุรี ตำบลพนมทวน อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี เปิดทุกวัน เวลา ๑๐.๐๐-๑๙.๐๐ นาฬิกา โทรศัพท์ ๐ ๓๔๕๗ ๙๐๖๗ และ ๐๘ ๖๐๖๕ ๑๕๕๕
กาแฟละมุนกรุ่นแรงบันดาลใจ
          บนทางหลวงหมายเลข ๓๒๓ ที่นำพาหลายคนไปสู่ชายแดนตะวันตกของกาญจนบุรี ก่อนภูเขาจะต้อนรับ ณ ที่ราบพิกัดท้าย ๆ ของอำเภอเมืองฯ กาญจนบุรี มุมร่มรื่นพร้อมเยียวยาคนเหนื่อยล้าบนถนนหลวงด้วยกาแฟและบรรยากาศละมุนหอม

          นิสา ห้วยหงส์ทอง ใช่เพียงแต่ยืนอยู่หน้าเครื่องชงกาแฟแต่เพียงอย่างเดียว แต่เธอส่งแรงบันดาลใจทั้งหมดไปทั่วเรือนไม้เก๋ไก๋ โอบล้อมด้วยพืชพรรณ ม่านบาหลี เบิร์ดออฟพาราไดซ์ ดาหลา เย็นชื่นราวป่าทรอปิคอล

          ๔ ปีกว่า ๆ ที่คนผ่านขึ้นล่องบนถนนสายหลักของเมืองกาญจน์รู้จักบ้านกาแฟและพักรื่นรมย์ กับเครื่องดื่มมากแรงบันดาลใจชนิดนี้ก่อนจะเดินไปตามจุดหมายของตัวเอง

          อาราบิกาพันธุ์ดีจากแดนดอยภาคเหนือมากลายเป็นกาแฟร้อนเย็นหลากเมนู ที่บางครั้งเธอพลิกแพลงส่วนผสมจากสูตรมาตรฐาน “ฉีกหลักของกาแฟบ้าง ตามความชอบของลูกค้า บางคนก็เน้นนม เน้นวิปครีม แต่ความเข้มถือเป็นสไตล์ของที่นี่ค่ะ”

          ตระกูลแฟรบปูชิโนเป็นขวัญใจของหลายคน ปั่นกาแฟผสมลูกเล่นต่าง ๆ ไว้ในหน้าตาชวนลอง หรือเบสิกอย่างเอสเพรสโซ คาปูชิโน ม็อกคา ลัตเต ทั้งเย็นและร้อน ก็เน้นชัดในความ “ถึง” ของการเป็นกาแฟ ใช่แต่เพียงภาพภายนอกอันสวยเก๋ทั้งแก้ว เฟอร์นิเจอร์ หมอนหนานุ่ม หรือชุดน้ำตาลนมสีขาวนวลตา
          ใครพาความหิวขึ้นบันไดมาถึงเคาน์เตอร์ บ้านกาแฟมีเบเกอรีโฮมเมดจากเพื่อนของนิสามาคอยรอรับ หรือเมนูง่าย ๆ แต่เต็มไปด้วยความตั้งใจในรายละเอียด สุกี้ทะเลจัดจ้านน้ำจิ้ม สปาเกตตีเขียวหวาน แซนด์วิชทอดนุ่มหอมแปลกลิ้น

          เมื่อความหอมหวานละมุนละไมเข้ามาเติมอยู่เต็มหัวใจ
          ถนนยาวไกลคดเคี้ยวที่รออยู่ข้างหน้าก็ไม่ใช่เรื่องน่าพรั่นพรึงที่จะกลับไปหา

บ้านกาแฟเลขที่ ๙๔ หมู่ ๙ ตำบลวังตั้ง อำเภอเมืองฯ จังหวัดกาญจนบุรี บริเวณเดียวกับปั๊มน้ำมันคาลเทกซ์ (ดาวเมืองสิงห์) ซ้ายมือริมทางหลวงหมายเลข ๓๒๓ ก่อนถึงแยกปราสาทเมืองสิงห์ ๕ กิโลเมตร โทรศัพท์ ๐๘ ๑๘๕๗ และ ๐๘ ๑๗๖๓ ๗๗๙๒


        ที่มา : อนุสาร อ.ส.ท. ปีที่ ๔๙  ฉบับที่ ๒  กันยายน ๒๕๕๑

ที่มา : http://www.osotho.com/th/content/indexdetail.php?ContentID=1076&myGroupID=